ทรงผมใหม่ๆ ที่กำลังติดลมบนอยู่นี้ ใครที่กำลังมองหาทรงผมใหม่ๆ ให้กับตัวเองที่ไม่อยากจะตัดหรือทำสี เราก็มีอีกวิธีที่ไม่ต้องทำอะไรมากมายกับผมแค่มีเครื่องประดับติดผมสวยๆ ที่เอามาประยุกต์กับของตัวเองที่มีอยู่แล้ว หรือของเก่าๆ เอามาตกแต่งให้ดูเก๋ๆ ตามเทรด์แฟนชั่นใหม่ๆ กันดูบ้างนะ และยังมีวิธีทำทรงผมสวยๆ เก๋ๆ มาฝากให้ลองทำกันดู
สวยๆ แบบไม่ต้องเสียสตางค์มากมาย ......อิอิ......
วันจันทร์ที่ 14 ธันวาคม พ.ศ. 2552
อัพเดทแต่งหน้า
วินาทีนี้ เทรนด์ตาคม กลมโต เด่นเด้ง สไตล์สาวเกาหลี กำลังมาแรงสุดๆ ตามกระแสฮิตของซีรีส์ แดนกิมจิ อยากสวยใสคิกขุแบบสาวเกาหลีโดยไม่ต้องพึ่งศัลยกรรม มีเทคนิคง่ายๆจาก “โคว จาอิม” เมกอัพอาร์ตทิสต์ประจำแบรนด์ชื่อดังเครื่องสำอางชั้นนำสัญชาติเกาหลี มาอัพเดททันอกทันใจ…
เคล็ดลับสำคัญของการแต่งหน้าให้ได้ลุคแบ๊วๆ แบบสาวเกาหลี ต้องเน้นความเป็นธรรมชาติ ประเภทแต่งให้ดูเหมือนไม่ได้แต่ง
1 เริ่มจากการเตรียมผิวหน้าให้เรียบเนียนด้วยการลงรองพื้น วิธีเลือกรองพื้นให้เหมาะกับผิวหน้าควรใช้2เฉดสีผสมกันให้เข้มกว่าสีผิวหน้าจริงหนึ่งโทน จะทำให้ได้ผิวหน้าที่เรียบเนียนดูธรรมชาติมากๆ ส่วนใครมีรอยแผลเป็น หรือรอยบวมใต้ตา แนะนำให้แต้มคอนซีลเลอร์ช่วยปกปิดความบกพร่อง โดยค่อยๆกดและเกลี่ยไปให้ทั่วบริเวณนั้นๆ สาวไทยส่วนใหญ่จะมีโครงหน้าคล้ายกับสาวเกาหลี คือรูปหน้ากลม และจมูกค่อนข้างแบน ลักษณะแนวการลงแป้งและรองพื้น จึงควรเริ่มจากบริเวณทีโซน แล้วกระจายไปยังบริเวณกรอบหน้าด้านข้าง เพื่อเป็นการสร้างมิติให้ใบหน้า หลังจากลงรองพื้นเรียบร้อยแล้ว ควรลงแป้งฝุ่นทับทันที โดยเลือกใช้แป้งฝุ่นแบบโปร่งแสง และสีสว่างกว่าจริงเล็กน้อย แบบเดียวกับที่ดาราเกาหลีกำลังนิยม จะช่วยให้ใบหน้าไบรท์ขึ้นทันตาเห็นการแต่งแต้มจุดเด่นบนใบหน้าก็เป็นขั้นตอนสำคัญ ควรเริ่มจากคิ้วเป็นจุดแรก โดยการแต่งคิ้วสไตล์เกาหลี จะเน้นรูปทรงธรรมชาติ ไม่เป็นเส้นเล็กหรือโค้งโก่ง เพราะทำให้ดูแก่กว่าวัย คิ้วรูปทรงตรงจะดูอ่อนวัยและเป็นธรรมชาติมากกว่า ขณะที่การเติมสีสันบนใบหน้า ควรเลือกสีอายแชโดว์ให้เข้ากับสีผิวหรือสีขนตาดำ โดยใช้ทั้งหมด3สีไล่ตามเฉดโทนอ่อนสุดไปถึงเข้มสุด ถ้าอยากให้ตาสวยคมชัดขึ้น ต้องเขียนขอบตา และใส่ ขนตาปลอมเป็นช่อๆ สำหรับแก้มและปาก การแต่งหน้าสไตล์กิมจิจะไม่ค่อยเน้นเท่าไหร่ แค่ใช้บรัชออนสีชมพูหรือพีชอ่อนๆ และทาลิปกลอสใสๆ ปิดท้าย ก็ดูดีเข้าคอนเซปต์แล้วใครอยากสวยน่ารักแบบเจ้าหญิงก็อย่าลืมนำเอาเทคนิคนี้ไปใช้นะค่ะ…
แบ๊วๆ เทรนด์แต่งหน้าสไตล์เกาหลี
หากใครยังรักสวยรักงามนิยมชมชอบการแต่งหน้าอยู่ ก็คงต้องขอบอกว่าหมดยุคไปแล้วสำหรับการแต่งหน้าเข้มๆปากแดงๆ ที่แลดูแล้วคล้ายกับจะออกโรงลิเก เพราะตอนนี้เทรนด์ของการแต่งหน้ากำลังมุ่งเน้นไปที่ ใสๆ แบ๋วๆ ง่าย ๆ ทำได้ด้วยตัวเอง
เทรนด์เกาหลี จัดว่าเป็นเทรนด์ที่ไม่ยุ่งยากนัก ทั้งเรื่องราวของเสื้อผ้าหน้าผมจึงทำได้รับความนิยมต่อวัยรุ่นเป็นจำนวนมาก และทั้งนี้เองด้วยหลักการของการกำหนดทิศทางในการแต่งหน้านั้นขึ้นอยู่กับสไตล์ของการทำผมและการแต่งกายของเจ้าตัว นั่นล่ะจึงทำให้ เทรนด์การแต่งหน้าจึงต้องเป็นเทรนด์เกาหลีไปในตัวด้วย
คราวนี้ หากใครอยากมีใบหน้าใสๆแบ๊ว ๆตามสไตล์เกาหลีให้ดูอินเทรนด์บ้างlife on campus ขออาสาพาไปติดตามคำแนะนำจาก
“ พี่เค-กฤษณะ มโนหาญ” ตำแหน่ง CREATIVE ARTTIRT DIRECTOR จาก ผลิตภัณธ์แห่งความงาม อย่าง Bsc Cosmetology ที่จะมาแนะว่าแต่งหน้าตามไตล์วัยรุ่นเกาหลีด้วยตัวเองนี่เขาทำยังไงกัน
เริ่มต้นที่เทรนด์ วัยรุ่นสาวเกาหลีกันก่อน
“ สาวไทยส่วนใหญ่ที่มีพื้นผิวหน้าขาวนวลอยู่แล้ว จะต้องแต่งหน้าตัวเองให้ดูเคลียร์ไม่ต้องพิถีพิถันกับมันมาก เหมือนออกงานเลย เพราะเทรนด์เกาหลีจะเน้นใส ๆเซอร์ตาเป็นประกายเล็กน้อยด้วย อายส์ชาโดว์บาง ๆ ไม่หนามาก แก้มฝาดระเรื่อๆชมพู ปากก็สีชมพูออกแดงนิด ๆ อย่าเข้ม คือเน้นหน้าธรรมชาติไปเลย ให้หน้าออกมาดูตากลมโต แก้มป่องชมพู ปากอิ่ม ชัดที่ตา ส่วนถ้าออกงานก็สามารถแต่งหน้าได้เองคือ อาจจะเพิ่มลายเนอร์เป็นประกายที่เปลือกตา ขนตางอนกว่าเดิมได้ เพื่อสร้างลูกเล่น”
ส่วนหนุ่มๆ แนวโมโทรก็สามารถอินเทรนด์ตามสไตล์เกาหลีได้ไม่แพ้ผู้หญิงเหมือนกัน "พี่เค" แนะให้แต่งหน้าอ่อน สีแทน เน้นคิ้วเข้ม โทนเอเชีย ไม่ใช่หน้าขาวปากแดง
“ สำหรับผู้ชายนี่ใช้มือป้าย ๆก็พอแต่อย่างแรงมาก อย่าให้เลือดฝาดหน้าลอย ให้แต่งเป็นโทนเข้ม ๆ แล้วแต่บุคลิกของคนด้วยหากจะแต่ง อย่าง ลิปกรอสนี่ผู้ชายสามารถทาได้ มีติดกระเป๋าก็ไม่แปลกอะไร ยิ่งเดี๋ยวนี้รู้กันมากยิ่งขึ้นแต่จะซื้อผิดกัน เพราะแต่งไม่เป็น อย่างทาครีมกันแดด แต่กลับมีผสมลองพื้นจนหน้าลอย เหงื่ออกเป็นคราบ ซึ่งจริง ๆแล้วทาครีมได้
แต่อย่าให้มัน ไม่ต้องเพิ่ม วอลลู่ม และทำให้ดูสะอาดเข้าไว้ ส่วนคิ้วเข้มสามารถเพิ่มให้เข้มได้อีก เป็นโทนเอเชีย ทาครีมแบบควบคุมความมัน ไม่ให้หลุดลอก แล้วใช้แป้งให้ดูสีชมพูอมแดง สไตล์เกาหลีนี่เน้นว่าต้องมีความสะอาดใสๆเข้าไว้ หากออกงานก็เช่นเดียวกันกับผู้หญิง ที่อาจจะมีคอนเซลเลอร์ มีไฮไลท์ที่ตาบ้างก็ได้”
เอาเป็นว่า ทั้งการแต่งหน้าและแต่งตัวก็ต้องดูที่บุคลิกของแต่ละคนด้วยล่ะกันว่าอย่างไรจึงจะเหมาะสม รวมทั้งการเลือกซื้อผลิตภัณฑ์ก็ควรดูที่มี อย. และสถานที่ผลิตชัดเจน แต่ส่วนหนุ่ม ๆที่ไม่มีความรู้เรื่องเครื่องสำอางค์ ก็ไม่ต้องอาย ปรึกษาสาวเอาไว้บ้างมันก็ดี พี่เคบอก
มารู้จักการแต่งตัว-แต่งหน้าแบบสาวเกาหลี
เสื้อสไตล์เกาหลี โดยส่วนใหญ่แล้วจะใส่เสื้อสองตัวซ้อนกัน เหตุเป็นเพราะว่าอากาศในประเทศเกาหลีค่อนข้างหนาวเย็น เพราะฉะนั้นจึงเน้นเสื้อตัวยาว ๆ โทนสีอาจตัดกันหรือเป็นโทนเดียวกัน ขึ้นอยู่กับความชอบ ส่วนกางเกง มักเป็นกางเกงประมาณเข่า มีผ้าผูกเอวประดับแทนเข็มขัด ในฤดูหนาวจะเป็นกางเกงขายาวแทน
สำหรับผู้หญิง ก็จะเป็นกระโปรง ส่วนใหญ่แล้วออกแนวหวาน ๆ น่ารัก ๆ หากเป็นกระโปรงสั้น นิยมใส่เล็กกิ้งไว้ด้านใน แต่ส่วนมากผู้หญิงเกาหลีนิยมใส่ชุดแซ็ก
รองเท้า ใส่รองเท้าส้นสูงเป็นหลัก หรือรองเท้าบู๊ต อาจจะเป็นเพราะสภาพอากาศ ลักษณะสีสันออกโทนสีพื้น ๆ
เครื่องประดับ ส่วนใหญ่ใช้เพชรคริสตัลเป็นส่วนประกอบ ลักษณะเหมือนทองคำขาว เงิน ไม่นิยมนำทองมาเป็นส่วนประกอบนะคะ
ทรงผม เน้นความเป็นธรรมชาติ นิยมดัดเป็นลอน ๆ คลื่น ๆ ทำผมให้ดูยุ่ง ๆ เป็นธรรมชาติ ทรงนี้สามารถทำได้ทั้งผู้หญิงและผู้ชาย
เครื่องประดับผม ที่กำลังเป็นที่นิยมกันในตอนนี้ คือ "ที่คาดผมแบบทูอินวัน" (คาดหนึ่งอันแต่ดูเหมือนมีสองอัน) มีลักษณะแยกเป็นสองแฉกด้วยกัน มีสีสันสดใส มีลักษณะเป็นเพชร วับ ๆ หรือตามวัสดุที่ประดิษฐ์มา หรือเป็นกิ๊บติดผมแนวน่ารัก ๆ กุ๊กกิ๊ก
1. คนเกาหลีเวลาแต่งหน้าจะเน้นที่ "ดวงตา" เป็นหลัก อาจเป็นเพราะว่าคนเกาหลีมีจุดอ่อนที่ตา หมายถึง ตาตี่ และมีชั้นเดียว สามารถลังเกตได้จากการที่คนเกาหลีทำศัลยกรรม ส่วนใหญ่แล้วคนเกาหลีเน้นทำตาสองชั้นเป็นหลัก แต่สำหรับคนที่ไม่ทำศัลยกรรมจะมีการแต่งดวงตาให้ดูคมชัดขึ้นและเป็นธรรมชาติ โดยเลือกสีอายแชโดว์ให้เข้ากับสีผิว หรือสีขนตา และควรใช้ประมาณ 3 สี โดยทาไล่ตามเฉดโทนอ่อนที่สุดไปจนถึงเข้มที่สุด และลงสีที่หนึ่งที่เป็นโทนสีอ่อนสุดบริเวณเปลือกตา ทาสีที่สองลงตรงบริเวณจุดกึ่งกลางของตา และเกลี่ยขึ้นข้างบน แล้วไล่สีที่สามจากหางตามาถึงบริเวณกึ่งกลางตาแล้วเกลี่ยขึ้น ลงสีที่เข้มที่สุดตามแนวชิดขอบตาอีกครั้ง และเกลี่ยให้เรียบเนียน
2. ถ้าอยากให้ดวงตาดูสวยคมชัดยิ่งขึ้น อย่าลืมเขียนขอบตาด้วย แต่ควรเป็นชนิดเค้กอายไลเนอร์ เพราะดูซอฟต์เป็นธรรมชาติมากกว่า และไม่ควรเขียนแบบตวัดปลายขึ้น เขียนสีดำเฉพาะขอบตาบนเท่านั้น ซึ่งจะลากให้เป็นเส้นเล็กที่สุดโดยแทรกเข้าไประหว่างขนตา ค่อย ๆ แทรกซึมเข้าไป จากหัวตาจนถึงหางตาเท่า ๆ กัน และใช้แปรงเกลี่ยเพื่อไม่ให้เห็นเป็นเส้นขอบวาด
3. ส่วนขอบตาล่าง ให้ใช้สีขาวเขียนที่ขอบตา โดยเขียนที่ขอบตาด้านใน อีกเทคนิคที่ทำให้ดวงตาดูมีเสน่ห์น่าค้นหามากยิ่งนั่นคือใส่ขนตาปลอม ซึ่งนิยมแซมขนตาแบบที่เป็นช่อ เพราะดูเป็นธรรมชาติมากกว่าเป็นแผง การดัดขนตาให้งอนเริ่มจากโคนไล่ขึ้นไปที่ปลายและปัดมาสคาร่าทั้งขนตาจริงขนตาปลอมพร้อมกัน วิธีนี้ทำให้ขนตาจริงกับขนตาปลอมกลืนเป็นหนึ่งเดียวกัน ดูเป็นธรรมชาติ
สำหรับผู้หญิง ก็จะเป็นกระโปรง ส่วนใหญ่แล้วออกแนวหวาน ๆ น่ารัก ๆ หากเป็นกระโปรงสั้น นิยมใส่เล็กกิ้งไว้ด้านใน แต่ส่วนมากผู้หญิงเกาหลีนิยมใส่ชุดแซ็ก
รองเท้า ใส่รองเท้าส้นสูงเป็นหลัก หรือรองเท้าบู๊ต อาจจะเป็นเพราะสภาพอากาศ ลักษณะสีสันออกโทนสีพื้น ๆ
เครื่องประดับ ส่วนใหญ่ใช้เพชรคริสตัลเป็นส่วนประกอบ ลักษณะเหมือนทองคำขาว เงิน ไม่นิยมนำทองมาเป็นส่วนประกอบนะคะ
ทรงผม เน้นความเป็นธรรมชาติ นิยมดัดเป็นลอน ๆ คลื่น ๆ ทำผมให้ดูยุ่ง ๆ เป็นธรรมชาติ ทรงนี้สามารถทำได้ทั้งผู้หญิงและผู้ชาย
เครื่องประดับผม ที่กำลังเป็นที่นิยมกันในตอนนี้ คือ "ที่คาดผมแบบทูอินวัน" (คาดหนึ่งอันแต่ดูเหมือนมีสองอัน) มีลักษณะแยกเป็นสองแฉกด้วยกัน มีสีสันสดใส มีลักษณะเป็นเพชร วับ ๆ หรือตามวัสดุที่ประดิษฐ์มา หรือเป็นกิ๊บติดผมแนวน่ารัก ๆ กุ๊กกิ๊ก
รวมไปถึง "แฟชั่นการแต่งหน้าแบบเกาหลี" ที่เป็นกระแสมาแรงสุด ๆ ในตอนนี้ การแต่งหน้าแบบเกาหลีจะเน้นแบบธรรมชาติเป็นหลัก การแต่งหน้าแบบนี้คนไทยเราก็กำลังฮิตกันมาก ๆ ลักษณะการแต่งหน้าแบบนี้ นอกจากจะดูสวยอย่างธรรมชาติแล้ว ยังให้ความรู้สึกที่สดใสอีกด้วย
1. คนเกาหลีเวลาแต่งหน้าจะเน้นที่ "ดวงตา" เป็นหลัก อาจเป็นเพราะว่าคนเกาหลีมีจุดอ่อนที่ตา หมายถึง ตาตี่ และมีชั้นเดียว สามารถลังเกตได้จากการที่คนเกาหลีทำศัลยกรรม ส่วนใหญ่แล้วคนเกาหลีเน้นทำตาสองชั้นเป็นหลัก แต่สำหรับคนที่ไม่ทำศัลยกรรมจะมีการแต่งดวงตาให้ดูคมชัดขึ้นและเป็นธรรมชาติ โดยเลือกสีอายแชโดว์ให้เข้ากับสีผิว หรือสีขนตา และควรใช้ประมาณ 3 สี โดยทาไล่ตามเฉดโทนอ่อนที่สุดไปจนถึงเข้มที่สุด และลงสีที่หนึ่งที่เป็นโทนสีอ่อนสุดบริเวณเปลือกตา ทาสีที่สองลงตรงบริเวณจุดกึ่งกลางของตา และเกลี่ยขึ้นข้างบน แล้วไล่สีที่สามจากหางตามาถึงบริเวณกึ่งกลางตาแล้วเกลี่ยขึ้น ลงสีที่เข้มที่สุดตามแนวชิดขอบตาอีกครั้ง และเกลี่ยให้เรียบเนียน
2. ถ้าอยากให้ดวงตาดูสวยคมชัดยิ่งขึ้น อย่าลืมเขียนขอบตาด้วย แต่ควรเป็นชนิดเค้กอายไลเนอร์ เพราะดูซอฟต์เป็นธรรมชาติมากกว่า และไม่ควรเขียนแบบตวัดปลายขึ้น เขียนสีดำเฉพาะขอบตาบนเท่านั้น ซึ่งจะลากให้เป็นเส้นเล็กที่สุดโดยแทรกเข้าไประหว่างขนตา ค่อย ๆ แทรกซึมเข้าไป จากหัวตาจนถึงหางตาเท่า ๆ กัน และใช้แปรงเกลี่ยเพื่อไม่ให้เห็นเป็นเส้นขอบวาด
3. ส่วนขอบตาล่าง ให้ใช้สีขาวเขียนที่ขอบตา โดยเขียนที่ขอบตาด้านใน อีกเทคนิคที่ทำให้ดวงตาดูมีเสน่ห์น่าค้นหามากยิ่งนั่นคือใส่ขนตาปลอม ซึ่งนิยมแซมขนตาแบบที่เป็นช่อ เพราะดูเป็นธรรมชาติมากกว่าเป็นแผง การดัดขนตาให้งอนเริ่มจากโคนไล่ขึ้นไปที่ปลายและปัดมาสคาร่าทั้งขนตาจริงขนตาปลอมพร้อมกัน วิธีนี้ทำให้ขนตาจริงกับขนตาปลอมกลืนเป็นหนึ่งเดียวกัน ดูเป็นธรรมชาติ
วันอาทิตย์ที่ 13 ธันวาคม พ.ศ. 2552
ตาแบ๊ว แบบสาวเกาหลี
เหลือบมองเทรนด์ “ตาแบ๊ว” แบบสาวเกาหลี (health&cuisine)
เดี๋ยวนี้เทรนด์ความงามสไตล์ดารานักร้องเกาหลีอย่าง ขนตาปลอม ยืดขนตา เลนส์ตาโต กำลังมาแรง พร้อมๆ กับกระแสข่าวจากวงการแพทย์ว่าเทรนด์ตาแบ๊วเหล่านี้อาจเป็นทางลัดสู่การทำลายสุขภาพของดวงตาคุณได้ หากใช้ไม่ถูกวิธี
ขนตาปลอม
นอกจากจะทำให้ดวงตาดูโดดเด่นขึ้นแล้ว แถมยังมีผลพลอยได้ตรงที่ช่วยลดการขยี้ตา ซึ่งเป็นสาเหตุการเกิดริ้วรอยได้อีกต่อหนึ่ง
ข้อเสีย :
เนื่องจากบริเวณที่ติดขนตาอยู่ใกล้กับดวงตาซึ่งเป็นบริเวณที่ผิวหนังบางมากที่สุดจุดหนึ่ง การติดขนตาต้องใช้กาวเป็นตัวยึดซึ่งบางคนอาจมีอาการแพ้สารบางอย่างในกาว เช่น เป็นผื่นแดง มีตุ่มใส อักเสบ ตาบวม เป็นต้น หากมีอาการดังกล่าวควรหยุดการใช้และไปพบแพทย์ทันที นอกจากอาการแพ้แล้วการติดขนตาปลอมยังอาจก่อให้เกิดโรคต่างๆ ดังนี้
-เปลือกตาอักเสบหรือหนังตาอักเสบ (Blepharitis)
เดี๋ยวนี้เทรนด์ความงามสไตล์ดารานักร้องเกาหลีอย่าง ขนตาปลอม ยืดขนตา เลนส์ตาโต กำลังมาแรง พร้อมๆ กับกระแสข่าวจากวงการแพทย์ว่าเทรนด์ตาแบ๊วเหล่านี้อาจเป็นทางลัดสู่การทำลายสุขภาพของดวงตาคุณได้ หากใช้ไม่ถูกวิธี
ขนตาปลอม
นอกจากจะทำให้ดวงตาดูโดดเด่นขึ้นแล้ว แถมยังมีผลพลอยได้ตรงที่ช่วยลดการขยี้ตา ซึ่งเป็นสาเหตุการเกิดริ้วรอยได้อีกต่อหนึ่ง
ข้อเสีย :
เนื่องจากบริเวณที่ติดขนตาอยู่ใกล้กับดวงตาซึ่งเป็นบริเวณที่ผิวหนังบางมากที่สุดจุดหนึ่ง การติดขนตาต้องใช้กาวเป็นตัวยึดซึ่งบางคนอาจมีอาการแพ้สารบางอย่างในกาว เช่น เป็นผื่นแดง มีตุ่มใส อักเสบ ตาบวม เป็นต้น หากมีอาการดังกล่าวควรหยุดการใช้และไปพบแพทย์ทันที นอกจากอาการแพ้แล้วการติดขนตาปลอมยังอาจก่อให้เกิดโรคต่างๆ ดังนี้
-เปลือกตาอักเสบหรือหนังตาอักเสบ (Blepharitis)
-การงอกของขนตาผิดเพี้ยนไปจากตำแหน่งเดิมบริเวณเปลือกตา (Distichiasis)
-อาการขนตาคุดหรือมีอาการขนตางอกขึ้นผิดทิศทางเพราะถูกกดทับจากขนตาปลอม (Trichiasis) เช่น งอกเข้าไปในดวงตาทำให้เกิดการระคายเคือง
-อาการตากุ้งยิง เนื่องจากต่อมขนตาเกิดการอักเสบเป็นหนอง (An external hordeolum)
-การอักเสบที่เกิดการอุดตันเนื่องจากตัวไรที่อาศัยอยู่ตามขนตาและรูขุมขนบนใบหน้า (Demodex folliculorum) ซึ่ง 98 เปอร์เซ็นต์ของคนปกติจะมีไรชนิดนี้อาศัยอยู่ การติดขนตาปลอมเป็นการเพิ่มปริมาณของไร ส่งผลให้เกิดการอักเสบ
How to
- ควรเลือกกาวที่มีคุณภาพดี บางชนิดมีสารบำรุงขนตาผสม แม้จะมีราคาสูงกว่าแต่ลดปัญหาระคายเคืองได้
How to
- ควรเลือกกาวที่มีคุณภาพดี บางชนิดมีสารบำรุงขนตาผสม แม้จะมีราคาสูงกว่าแต่ลดปัญหาระคายเคืองได้
- เมื่อเกิดการแพ้หรือระคายเคืองต้องหยุดใช้ หากอาการไม่ดีขึ้นควรพบแพทย์
- ไม่ควรใช้ขนตาปลอมร่วมกับคนอื่น และต้องรักษาความสะอาดเมื่อนำมาใช้ซ้ำ
ยืดขนตา
ยืดขนตา
การยืดขนตาช่วยทำให้ขนตาดูยาวขึ้น โดยใช้หลักการเดียวกับการปัดมาสคาร่าให้ขนตายืดเหยียด ช่วยประหยัดเวลาในการแต่งหน้าและอยู่ได้นานกว่าการติดขนตาปลอม คือ ประมาณ 2 สัปดาห์ไปจนถึง 1 เดือน ใช้เวลาในการทำประมาณ 1 ชั่วโมง
ข้อเสีย :
การยืดขนตาปลอมยังมีค่าใช้จ่ายสูง คือ 1,500-3,000 บาท หากผู้ให้บริการขาดความชำนาญอาจทำให้สารเคมีที่ใช้ยืดขนตาไหลเข้าไปในตาทำให้เส้นเลือดฝอยแตก หรือเกิดการระคายเคืองได้
How to
- ควรเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่ได้รับการรับรองจาก อย.
การยืดขนตาปลอมยังมีค่าใช้จ่ายสูง คือ 1,500-3,000 บาท หากผู้ให้บริการขาดความชำนาญอาจทำให้สารเคมีที่ใช้ยืดขนตาไหลเข้าไปในตาทำให้เส้นเลือดฝอยแตก หรือเกิดการระคายเคืองได้
How to
- ควรเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่ได้รับการรับรองจาก อย.
- เช่นเดียวกับการใช้ขนตาปลอม หากเกิดการระคายเคืองต้องรีบไปพบแพทย์ทันที
เลนส์ตาโต
คอนแทคเลนส์ชนิดตาโต หรือที่วัยรุ่นเรียกกันว่า “บิ๊กอาย”จะเหมือนกับคอนแทคเลนส์แฟชั่นสมัยก่อนที่มีสีสันให้เลือกมากมาย แต่ที่แตกต่างคือ เลนส์สีบริเวณตรงกลางดวงตาจะเป็นเลนส์ใสปกติแต่บริเวณขอบเลนส์จะมีสีดำ ทำให้ขอบตาคุณดูชัดมากขึ้น มีราคาตั้งแต่ 450 – 2,000 บาท
ข้อเสีย :
มีวัยรุ่นบางกลุ่มนิยมซื้อมาแลกกันใส่คนละข้างซึ่งเสี่ยงต่อการติดเชื้อของโรคติดต่อบางชนิด เชื้อแบคทีเรีย รวมทั้งเชื้อเอดส์ แฟชั่น Big eyes จึงเป็นเรื่องที่น่าเป็นห่วง เนื่องจากตาเป็นอวัยวะที่บอบบางมาก การใส่คอนแทคเลนส์เป็นการสัมผัสกับกระจกตาชั้นผิวนอก (Epithelium) โดยตรงหากไม่ระวังเรื่องความสะอาดอาจเกิดการติดเชื้อที่กระจกตาและลุกลามได้ หากไม่ได้รับการรักษาที่ถูกต้องและทันเวลา อาจส่งผลให้ต้องสูญเสียดวงตา
How to
- ไม่ควรใส่ติดต่อกันนานเกิน 8-10 ชั่วโมง และไม่ควรใส่ขณะนอนหลับ เนื่องจากการใส่คอนแทคเลนส์เป็นเวลานานจะทำให้ตาได้รับออกซิเจนน้อยลง ทำห้เกิดอาการตามัวชั่วคราว เซลล์ผิวชั้นนอกของกระจกตาจะเสื่อมและทำให้การแบ่งตัวของเซลล์ผิดปกติจนเกิดการติดเชื้อลุกลามได้ - ล้างกล่องแช่คอนแทคเลนส์ให้สะอาดทุกครั้งและผึ่งให้แห้งเพื่อป้องกันการสะสมของคราบโปรตีนและเชื้อแบคทีเรียสิ่งสกปรกต่างๆ
- ไม่ควรขยี้ตาขณะใส่คอนแทคเลนส์ เพราะคอนแทคเลนส์จะเสียดสีกับกระจกตาจนเกิดเป็นแผลที่กระจกตาและติดเชื้อได้ หากระคายเคืองควรใช้การกะพริบตา หรือควรถอดออกและลืมตาในน้ำสะอาด
- เลือกซื้อคอนแทคเลนส์ที่ได้รับมาตรฐานจากร้านที่มีที่ตั้งชัดเจน เพราะคอนแทคเลนส์ราคาถูกที่ขายทั่วไปอาจเหลืออายุการใช้งานไม่ตรงกับที่ระบุไว้ข้างกล่อง หรือผ่านการผลิตที่ไม่ได้มาตรฐาน
ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก
ข้อเสีย :
มีวัยรุ่นบางกลุ่มนิยมซื้อมาแลกกันใส่คนละข้างซึ่งเสี่ยงต่อการติดเชื้อของโรคติดต่อบางชนิด เชื้อแบคทีเรีย รวมทั้งเชื้อเอดส์ แฟชั่น Big eyes จึงเป็นเรื่องที่น่าเป็นห่วง เนื่องจากตาเป็นอวัยวะที่บอบบางมาก การใส่คอนแทคเลนส์เป็นการสัมผัสกับกระจกตาชั้นผิวนอก (Epithelium) โดยตรงหากไม่ระวังเรื่องความสะอาดอาจเกิดการติดเชื้อที่กระจกตาและลุกลามได้ หากไม่ได้รับการรักษาที่ถูกต้องและทันเวลา อาจส่งผลให้ต้องสูญเสียดวงตา
How to
- ไม่ควรใส่ติดต่อกันนานเกิน 8-10 ชั่วโมง และไม่ควรใส่ขณะนอนหลับ เนื่องจากการใส่คอนแทคเลนส์เป็นเวลานานจะทำให้ตาได้รับออกซิเจนน้อยลง ทำห้เกิดอาการตามัวชั่วคราว เซลล์ผิวชั้นนอกของกระจกตาจะเสื่อมและทำให้การแบ่งตัวของเซลล์ผิดปกติจนเกิดการติดเชื้อลุกลามได้ - ล้างกล่องแช่คอนแทคเลนส์ให้สะอาดทุกครั้งและผึ่งให้แห้งเพื่อป้องกันการสะสมของคราบโปรตีนและเชื้อแบคทีเรียสิ่งสกปรกต่างๆ
- ไม่ควรขยี้ตาขณะใส่คอนแทคเลนส์ เพราะคอนแทคเลนส์จะเสียดสีกับกระจกตาจนเกิดเป็นแผลที่กระจกตาและติดเชื้อได้ หากระคายเคืองควรใช้การกะพริบตา หรือควรถอดออกและลืมตาในน้ำสะอาด
- เลือกซื้อคอนแทคเลนส์ที่ได้รับมาตรฐานจากร้านที่มีที่ตั้งชัดเจน เพราะคอนแทคเลนส์ราคาถูกที่ขายทั่วไปอาจเหลืออายุการใช้งานไม่ตรงกับที่ระบุไว้ข้างกล่อง หรือผ่านการผลิตที่ไม่ได้มาตรฐาน
ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)