วันอาทิตย์ที่ 31 มกราคม พ.ศ. 2553

เทรนด์ความงาม"ตาแบ๊ว"สไตล์สาวเกาหลี


เดี๋ยวนี้เทรนด์ความงามสไตล์ดารานักร้องเกาหลีอย่าง ขนตาปลอม ยืดขนตา เลนส์ตาโต กำลังมาแรง พร้อมๆ กับกระแสข่าวจากวงการแพทย์ว่าเทรนด์ตาแบ๊วเหล่านี้อาจเป็นทางลัดสู่การทำลายสุขภาพของดวงตาคุณได้ หากใช้ไม่ถูกวิธี
ขนตาปลอม

นอกจากจะทำให้ดวงตาดูโดดเด่นขึ้นแล้ว แถมยังมีผลพลอยได้ตรงที่ช่วยลดการขยี้ตา ซึ่งเป็นสาเหตุการเกิดริ้วรอยได้อีกต่อหนึ่ง

ข้อเสีย :
เนื่องจากบริเวณที่ติดขนตาอยู่ใกล้กับดวงตาซึ่งเป็นบริเวณที่ผิวหนังบางมากที่สุดจุดหนึ่ง การติดขนตาต้องใช้กาวเป็นตัวยึดซึ่งบางคนอาจมีอาการแพ้สารบางอย่างในกาว เช่น เป็นผื่นแดง มีตุ่มใส อักเสบ ตาบวม เป็นต้น หากมีอาการดังกล่าวควรหยุดการใช้และไปพบแพทย์ทันที นอกจากอาการแพ้แล้วการติดขนตาปลอมยังอาจก่อให้เกิดโรคต่างๆ ดังนี้

- เปลือกตาอักเสบหรือหนังตาอักเสบ (Blepharitis) - การงอกของขนตาผิดเพี้ยนไปจากตำแหน่งเดิมบริเวณเปลือกตา (Distichiasis) - อาการขนตาคุดหรือมีอาการขนตางอกขึ้นผิดทิศทางเพราะถูกกดทับจากขนตาปลอม (Trichiasis) เช่น งอกเข้าไปในดวงตาทำให้เกิดการระคายเคือง - อาการตากุ้งยิง เนื่องจากต่อมขนตาเกิดการอักเสบเป็นหนอง (An external hordeolum) - การอักเสบที่เกิดการอุดตันเนื่องจากตัวไรที่อาศัยอยู่ตามขนตาและรูขุมขนบนใบหน้า (Demodex folliculorum) ซึ่ง 98 เปอร์เซ็นต์ของคนปกติจะมีไรชนิดนี้อาศัยอยู่ การติดขนตาปลอมเป็นการเพิ่มปริมาณของไร ส่งผลให้เกิดการอักเสบ

How to
- ควรเลือกกาวที่มีคุณภาพดี บางชนิดมีสารบำรุงขนตาผสม แม้จะมีราคาสูงกว่าแต่ลดปัญหาระคายเคืองได้ - เมื่อเกิดการแพ้หรือระคายเคืองต้องหยุดใช้ หากอาการไม่ดีขึ้นควรพบแพทย์ - ไม่ควรใช้ขนตาปลอมร่วมกับคนอื่น และต้องรักษาความสะอาดเมื่อนำมาใช้ซ้ำ



ยืดขนตา

การยืดขนตาช่วยทำให้ขนตาดูยาวขึ้น โดยใช้หลักการเดียวกับการปัดมาสคาร่าให้ขนตายืดเหยียด ช่วยประหยัดเวลาในการแต่งหน้าและอยู่ได้นานกว่าการติดขนตาปลอม คือ ประมาณ 2 สัปดาห์ไปจนถึง 1 เดือน ใช้เวลาในการทำประมาณ 1 ชั่วโมง

ข้อเสีย :
การยืดขนตาปลอมยังมีค่าใช้จ่ายสูง คือ 1,500-3,000 บาท หากผู้ให้บริการขาดความชำนาญอาจทำให้สารเคมีที่ใช้ยืดขนตาไหลเข้าไปในตาทำให้เส้นเลือดฝอยแตก หรือเกิดการระคายเคืองได้

How to
- ควรเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่ได้รับการรับรองจาก อย. - เช่นเดียวกับการใช้ขนตาปลอม หากเกิดการระคายเคืองต้องรีบไปพบแพทย์ทันที



เลนส์ตาโต

คอนแทคเลนส์ชนิดตาโต หรือที่วัยรุ่นเรียกกันว่า “บิ๊กอาย”จะเหมือนกับคอนแทคเลนส์แฟชั่นสมัยก่อนที่มีสีสันให้เลือกมากมาย แต่ที่แตกต่างคือ เลนส์สีบริเวณตรงกลางดวงตาจะเป็นเลนส์ใสปกติแต่บริเวณขอบเลนส์จะมีสีดำ ทำให้ขอบตาคุณดูชัดมากขึ้น มีราคาตั้งแต่ 450 – 2,000 บาท

ข้อเสีย :
มีวัยรุ่นบางกลุ่มนิยมซื้อมาแลกกันใส่คนละข้างซึ่งเสี่ยงต่อการติดเชื้อของโรคติดต่อบางชนิด เชื้อแบคทีเรีย รวมทั้งเชื้อเอดส์ แฟชั่น Big eyes จึงเป็นเรื่องที่น่าเป็นห่วง เนื่องจากตาเป็นอวัยวะที่บอบบางมาก การใส่คอนแทคเลนส์เป็นการสัมผัสกับกระจกตาชั้นผิวนอก (Epithelium) โดยตรงหากไม่ระวังเรื่องความสะอาดอาจเกิดการติดเชื้อที่กระจกตาและลุกลามได้ หากไม่ได้รับการรักษาที่ถูกต้องและทันเวลา อาจส่งผลให้ต้องสูญเสียดวงตา

How to
- ไม่ควรใส่ติดต่อกันนานเกิน 8-10 ชั่วโมง และไม่ควรใส่ขณะนอนหลับ เนื่องจากการใส่คอนแทคเลนส์เป็นเวลานานจะทำให้ตาได้รับออกซิเจนน้อยลง ทำห้เกิดอาการตามัวชั่วคราว เซลล์ผิวชั้นนอกของกระจกตาจะเสื่อมและทำให้การแบ่งตัวของเซลล์ผิดปกติจนเกิดการติดเชื้อลุกลามได้
- ล้างกล่องแช่คอนแทคเลนส์ให้สะอาดทุกครั้งและผึ่งให้แห้งเพื่อป้องกันการสะสมของคราบโปรตีนและเชื้อแบคทีเรียสิ่งสกปรกต่างๆ

- ไม่ควรขยี้ตาขณะใส่คอนแทคเลนส์ เพราะคอนแทคเลนส์จะเสียดสีกับกระจกตาจนเกิดเป็นแผลที่กระจกตาและติดเชื้อได้ หากระคายเคืองควรใช้การกะพริบตา หรือควรถอดออกและลืมตาในน้ำสะอาด

- เลือกซื้อคอนแทคเลนส์ที่ได้รับมาตรฐานจากร้านที่มีที่ตั้งชัดเจน เพราะคอนแทคเลนส์ราคาถูกที่ขายทั่วไปอาจเหลืออายุการใช้งานไม่ตรงกับที่ระบุไว้ข้างกล่อง หรือผ่านการผลิตที่ไม่ได้มาตรฐาน

เทคนิคการกรีดอายไลเนอร์แบบเกาหลี


Pencil Eyeliner
เป็นอายไลเนอร์ที่เขียนง่ายที่สุด และเหมาะสำหรับมือใหม่หัดเขียน สาวๆ ที่จะเลือกใช้อายไลเนอร์ประเภทนี้ควรเป็นเจ้าของผิวรอบดวงตาที่ตึงกระชับ เพราะหากผิวบริเวณนี้แห้งกร้านขาดความกระชับแล้วจะเขียนขอบตาด้วยอายไลเนอร์แบบแท่งได้ยาก นอกจากนี้การกรีดอายไลเนอร์แบบนี้ต้องเหลาอยู่เสมอเพื่อความสะดวกในการเขียน และยังช่วยกำจัดแบคทีเรียที่สะสมอยู่ที่เนื้อผลิตภัณฑ์ด้วย อีกทั้งหลังจากเหลาแล้วควรนำอายไลเนอร์มาลองขีดเขียนที่หลังมือก่อนเพื่อเช็กว่าแหลมเกินไปหรือไม่ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดอันตรายต่อดวงตา
ทิปส์ : หากคุณมีผิวบริเวณรอบดวงตาแห้งกร้าน และหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะต้องใช้อายไลเนอร์แบบแท่ง แนะนำให้จุ่มปลายดินสอในมอยส์เจอไรเซอร์สักเล็กน้อยก่อน จะช่วยทำให้เนื้อผลิตภัณฑ์ทาง่ายยิ่งขึ้น
Liquid Eyeliner
มักมาพร้อมกับแปรงปัด สำหรับอายไลเนอร์ที่เป็นเนื้อลิควิดจะเหมาะสำหรับสาวๆ ที่มีทักษะการกรีดที่ดีระดับหนึ่งแล้ว (มีชั่วโมงบินที่มากพอ) อายไลเนอร์ประเภทนี้จะมอบความเนียนเรียบ สีสดชัดได้ดีกว่า Pencil
Eyeliner แต่ไม่เหมาะสำหรับการเขียนใต้ตาล่าง ดังนั้นบริเวณใต้ตาล่างยังคงต้องใช้ Pencil Eyeliner จะเหมาะสมและเข้าถึงมากกว่า ส่วนการกรีดอายไลเนอร์แบบลิควิดนี้ควรก้มหน้าลงเล็กน้อยจะช่วยให้เวลาทาแล้วเห็นเส้นชัดเจน ไม่ทำให้อายไลเนอร์เลอะส่วนอื่น ที่สำคัญไม่ทำให้เกิดริ้วรอยจากการย่นหน้าอีกด้วย
ทิปส์ : เคล็ดลับสำหรับการกรีดอายไลเนอร์ประเภทนี้ให้ง่ายขึ้น ให้เอาศอกวางบนโต๊ะ ก้มหน้าลง แล้วเริ่มกรีดอายไลเนอร์ เพราะการวางศอกบนโต๊ะจะทำให้เวลาวาดอายไลเนอร์มีน้ำหนักในการลงเส้นสม่ำเสมอยิ่งขึ้น ผลที่ได้คือเส้นเรียบตรงสม่ำเสมอ

วันอังคารที่ 26 มกราคม พ.ศ. 2553

วิธีแต่งแบบเทรนด์ตาแมว



หรับเทรนด์แต่งหน้าสไตล์เกาหลีรับฤดูหนาวคือสโมกกี้ อาย เทรนด์ หรือเรียกว่า "เทรนด์ตาแมว" ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในประเทศเกาหลี ซึ่งการแต่งหน้าแบบนี้จะเน้นการแต่งดวงตาให้มีความเซ็กซี่เหมือนตาแมว

นอกจากการแต่งตาแล้ว การแต่งริมฝีปากและการลงเบสจะเน้นสีสันแบบธรรมชาติมากที่สุด ด้วยการเน้นลงพื้นในปริมาณที่น้อยเพื่อเผยผิวใส และใช้คอลซิลเลอร์เพื่อรอยหรือป้องกันขอบตาดำ

ส่วนวิธีแต่งแบบเทรนด์ตาแมวนั้น

ตรงบริเวณดวงตาต้องไม่เน้นการแต่งสโมกกี้ให้ดูหนา

แต่เน้นการเขียนขอบรอบดวงตาให้ชัดเจนและบางๆ

โดยใช้เฉดสีเทาที่เปลือกตาทั้งหมด

จากนั้นใช้สีน้ำเงินหรือม่วงทาทับลงไปโดยเน้นจุดไฮไลต์บนเปลือกตาเป็นสีเทาเพื่อเพิ่มจุดเด่น

และใช้อายแชโดว์สีดำเพื่อทำให้ดวงตาดูโตและโดดเด่น

หลังจากนั้นให้ปัดมาสคาร่าและติดขนตาปลอมเพื่อเพิ่มความหรูหรา

ตามด้วยริมฝีปากควรหลีกเลี่ยงลิปสติคที่ให้ประกายมันเงา

แต่ให้ใช้ลิปสติคที่มีสีคล้ายริมฝีปากเพื่อให้ดูเป็นธรรมชาติมากที่สุด

วันจันทร์ที่ 4 มกราคม พ.ศ. 2553

เทรนด์เกาหลี


การแต่งตัวสไตล์เกาหลี โดยส่วนใหญ่แล้วจะใส่เสื้อสองตัวซ้อนกัน เป็นเพราะว่าอากาศในประเทศเกาหลีค่อนข้างหนาวจึงไม่แปลกที่จะเห็นหนุ่มๆ สวมเสื้อตัวยาวๆ (ตัวใดตัวหนึ่ง อาจเป็นตัวในหรือตัวนอก) โทนสีอาจตัดกันหรือเป็นโทนเดียวกัน ขึ้นอยู่กับความชอบ ซ้อนทับกันสองหรือสามตัว กางเกงก็ตามสบายไม่ว่าจะเป็นยีนส์ตัวใหญ่ซักหน่อย หรือเดฟสีสด และที่สำคัญที่ขาดไม่ได้คือ แอคเซสเซอรี่ ไม่ว่าจะเป็นพวกเครื่องประดับ สร้อยคอ สร้อยข้อมือ นาฬิกา หมวก ผ้าพันคอ เข็มขัด รวมไปถึง รองเท้าและกระเป๋า ก็ถือเป็นส่วนเติมแต่งให้หนุ่มๆ ดูดีมีสไตล์แตกต่างกันไป

แต่งหน้าสไตล์เกาหลี เทรนด์ตาแมว..รับหนาว

เรื่องของสวยๆ งามๆ อยู่คู่กับผู้หญิงเสมอ โดยเฉพาะเทรนด์แฟชั่นต้องตามต้องอินอยู่ตลอดเวลา อย่างตอนนี้ที่กระแสเกาหลีมาฮิตสุดสุด สาวน้อยสาวใหญ่ได้เกาะกระแสอย่างมากมาย "เกาหลี บิวตี้ อคาเดมี่" จึงเผยเคล็ดลับการแต่งหน้าสวยใสสไตล์เกาหลี ด้วยการนำเทรนด์แต่งหน้าแบบใหม่มาผสมผสานกับการแต่งหน้าแบบธรรมชาติซึ่งนอกจากช่วยเพิ่มสีสันให้กับใบหน้า ยังคงความสวยใสแบบธรรมชาติอีกด้วย

สำหรับเทรนด์แต่งหน้าสไตล์เกาหลีรับฤดูหนาวคือสโมกกี้ อาย เทรนด์ หรือเรียกว่า "เทรนด์ตาแมว" ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในประเทศเกาหลี ซึ่งการแต่งหน้าแบบนี้จะเน้นการแต่งดวงตาให้มีความเซ็กซี่เหมือนตาแมว นอกจากการแต่งตาแล้ว การแต่งริมฝีปากและการลงเบสจะเน้นสีสันแบบธรรมชาติมากที่สุด ด้วยการเน้นลงพื้นในปริมาณที่น้อยเพื่อเผยผิวใส และใช้คอลซิลเลอร์เพื่อรอยหรือป้องกันขอบตาดำ

ส่วนวิธีแต่งแบบเทรนด์ตาแมวนั้น ตรงบริเวณดวงตาต้องไม่เน้นการแต่งสโมกกี้ให้ดูหนา แต่เน้นการเขียนขอบรอบดวงตาให้ชัดเจนและบางๆ โดยใช้เฉดสีเทาที่เปลือกตาทั้งหมด จากนั้นใช้สีน้ำเงินหรือม่วงทาทับลงไปโดยเน้นจุดไฮไลต์บนเปลือกตาเป็นสีเทาเพื่อเพิ่มจุดเด่น และใช้อายแชโดว์สีดำเพื่อทำให้ดวงตาดูโตและโดดเด่น หลังจากนั้นให้ปัดมาสคาร่าและติดขนตาปลอมเพื่อเพิ่มความหรูหรา ตามด้วยริมฝีปากควรหลีกเลี่ยงลิปสติคที่ให้ประกายมันเงาแต่ให้ใช้ลิปสติคที่มีสีคล้ายริมฝีปากเพื่อให้ดูเป็นธรรมชาติมากที่สุด

แค่นี้ก็เฉิดฉายแบบสไตล์เกาหลีได้อย่างไม่ตกเทรนด์

การแต่งหน้าสไตล์เกาหลี แบบธรรมชาติ

จุดเด่น ของการแต่งหน้าสไตล์ธรรมชาติ คือ การแต่งหน้าในแบบที่แต่งหน้าแล้วแต่ดูสวยใสราวกับไม่ได้แต่งหน้า ซ้ำยังสามารถปกปิดจุดด้อย และเสริมสร้างจุดเด่นบนใบหน้าให้สวยขึ้นได้อีก สังเกตได้จากสไตล์การแต่งหน้าของ “ชงเฮเคียว” นางเอกจากซีรีส์เกาหลีเรื่อง “Full house” และ “ลียองเอ” นางเอกจากเรื่อง “แดจังกึม” ในละครและหนังของเกาหลี จะเห็นได้ว่านางเอกเหล่านี้ไม่ได้แต่งหน้ามาก แต่สามารถออกมาสวยและเป็นธรรมชาติมากๆ
ข้อควรระวัง ของการแต่งหน้าสไตล์นี้ คือ การแต่งหน้านั้นไม่ใช่การโชว์สีที่ใบหน้า แต่การแต่งหน้านั้นเพื่อทำให้เราสวยขึ้นและทำให้เราดูเด็กลง

รองพื้น ข้อแตกต่างที่เห็นได้ชัดที่สุดสำหรับการแต่งหน้าสไตล์ไทยและการแต่งหน้าสไตล์เกาหลี คือ การลงรองพื้น และการเขียนคิ้ว ซึ่งการแต่งหน้าสไตล์ Natural Make-up นั้น การลงรองพื้น และการเขียนคิ้ว ถือเป็นส่วนที่สำคัญที่สุด ถ้าเราลงรองพื้นและเขียนคิ้วเสร็จแล้ว ถือได้ว่าเราแต่งหน้าเสร็จไปแล้ว 70%
การลงรองพื้นให้เลือกตามสีผิวของเราเอง (อย่าลงให้ขาวเว่อร์เกินสีผิวจริง) ต้องลงรองพื้นให้เบาบางที่สุด และใช้คอนซิลเลอร์ปกปิดแค่ส่วนที่เราอยากจะปกปิดเท่านั้น เช่น สิว ฝ้า กระ รอยจุดด่างดำ แผลเป็น จะทำให้หน้าดูเบาบางกว่าการที่เราจะลงรองพื้นหนาๆ และให้กดเยอะๆ นานๆ เพื่อทำให้เครื่องสำอางอยู่ทนติดหน้าเราได้ทั้งวัน

การเขียนคิ้ว แต่ละคนจะมีรูปคิ้วที่แตกต่างกัน คนเกาหลีนิยมเขียนคิ้วตามรูปคิ้วจริงๆ (จึงมองดูคิ้วหนา) ต่างจากคนไทยที่นิยมเขียนคิ้วแบบคันศร (เป็นเส้นเดียวยาวโค้ง) การเขียนคิ้วควรใช้ดินสอเขียนคิ้ว (Ebony Pencil) สกรูว์บรัช, และ แชโดว์บรัช ในการเขียนคิ้ว เพื่อจะทำให้คิ้วออกมาดูเป็นธรรมชาติ เวลาเขียนคิ้วพยายามอย่าให้โหนกคิ้วสูงจนเกินไป ทำให้รู้สึกนุ่มมากที่สุด ข้อควรระวัง การใช้ดินสอเขียนคิ้วที่มีส่วนของน้ำมันผสมอยู่ จะทำให้คิ้วดูเข้มและไม่เป็นธรรมชาติ

อายแชโดว์ ควรลงรองพื้นให้เข้ากับโทนสีผิวของตัวเองก่อน หลังลงรองพื้นเสร็จเรียบร้อยแล้ว ให้ใช้สีชมพูเป็นพอยต์ (Point) เพื่อให้เกิดความรู้สึกที่สว่างและเพิ่มส่วนที่เป็นไฮไลต์ โดยใช้แชโดว์ที่เป็นมุกจะให้ความรู้สึกที่ดูใส สว่าง ข้อสำคัญสาวเกาหลีจะเขียนขอบตาเฉพาะขอบตาบน ข้อควรระวัง อย่าใช้สีมากเกินไป เพราะจะทำให้ดูเชย ไม่ทันสมัย ที่สำคัญแลดูไม่เป็นธรรมชาติ หากจะเล่นสีที่ตานิยมใช้โทนสีพาสเทล

ลิปสติก การทาลิปนั้นไม่ต้องเน้นลิปไลน์มาก ควรทาลิปที่เป็นโทนสีแดงทาแค่ในปากเท่านั้น จะทำให้รู้สึกว่าริมฝีปากสว่าง สดใสขึ้น และให้ใช้ลิปกลอสทาตั้งแต่ริมฝีปากข้างในจนถึงข้างนอกให้แลดูเป็นธรรมชาติ ข้อควรระวัง อย่าทาลิปกลอสในปริมาณที่มากเกินไป เพราะจะดูเหมือนว่าเพิ่งผ่านการรับประทานอาหารที่มันๆ มา

บลัชออน การปัดแก้มควรใช้บลัชออนสีชมพูที่เป็นธรรมชาติปัดบนส่วนที่เป็นโหนกแก้ม (โดยลองยิ้มดูแล้วปัดตรงส่วนที่นูนขึ้นมามากที่สุด) แต่อย่าทามากเกินไป เพราะจะทำให้รู้สึกไม่เป็นธรรมชาติ

วันอาทิตย์ที่ 3 มกราคม พ.ศ. 2553



ชื่ออื่นๆ : แพนเค้ก
วันเกิด : 27/05/1988
ที่เกิด : กรุงเทพ Thailand
ปัจจุบันอยู่ที่ : 100/67 ซอย 3 รามอินทรานิเวศน์ แขวงคันนายาว เขตคันนายาว ถ.รามอินทรา กรุงเทพ 10230
เมืองที่เกิด : Thailand
ส่วนสูง : 174
ประวัติย่อ

มีพี่น้อง 3 คน
การศึกษา
- อนุบาล โรงเรียนฉัตรวิทยา
- ประถมศึกษา โรงเรียนสาธิตเกษตร
- มัธยมศึกษา โรงเรียนสาธิตเกษตร
- อุดมศึกษา มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ คณะมนุษยศาสตร์ เอกภาษาอังกฤษ
ผลงาน
- ไทยซูเปอร์โมเดล 2004
- "MODEL OF THE WORLD 2004 จากประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีน
ผลงานละครที่ผ่านมา
- สืบ-สาว-ราว-รัก (ปี 2548 / ช่อง 7)น้ำ ระพีภัทร
- พลิกดินสู่ดาว (ปี 2548 / ช่อง 7) เวียร์ ศุกลวัตร
- สายน้ำสามชีวิต (ปี 2549 / ช่อง 7)เวียร ศุกลวัตร- อภิมหึมา มหาเศรษฐี (ปี 2550 / ช่อง 7) สเตฟาน
- เหลี่ยมเพชรกะรัต (ปี 2550 / ช่อง 7) วิน ธาวิน
- ตุ๊กตาเริงระบำ (ปี 2550 / ช่อง 7) พอล ภัทรพล
- วิมานมังกร (ปี 2551 / ช่อง 7) ออย ธนา- เพลงรักข้ามภพ (ปี 2552 / ช่อง 7)นิว วงศกร
- บ่วงร้ายพ่ายรัก (ปี 2552) เติ้ล ธนพล
ผลงานเพลง
- เพลงประกอบละคร "เพลงรักข้ามภพ" เพลง "ดวงใจ"
ผลงานโฆษณา
NetDesign , แฟซ่า ,ทรอปิคานา ทวิสเตอร์ , TOYOTA FORTUNER , ซิตร้า , หมากฝรั่ง Dentyne Xylitol , หลอดไฟ OSRAM,Smooth E
รางวัลที่ได้รับ
- Top Awards 2006 รางวัลดาวรุ่งหญิงยอดเยี่ยม จาก "พลิกดินสู่ดาว"
- Star Entertainment Awards 2006 รางวัลนักแสดงดาวรุ่งฝ่ายหญิงยอดเยี่ยม จาก "พลิกดินสู่ดาว"
- IN Young Generation Choice 2006 รางวัล Best Rising Star ดาวรุ่งแห่งปี(อายุไม่เกิน 20ปี)
- สตาร์ ปาร์ตี้ 18 ปี ทีวีพูล รางวัลขวัญใจนักข่าวประจำปี 2550


ประวัติเรียงตาม :: ผลงานแสดง

ผลงานแสดงที่ผ่านมา
Eragon(2006) ...ให้เสียง ซาเฟียร่า (ไทย)

ผลงานถ่ายโฆษณา
ดูโฆษณา Toyota Fortuner
ดูโฆษณา แฟช่า
เหตุผลที่ประทับใจ
เพราะเป็นดารานักแสดงที่อายุน้อยแต่กลับสร้างผลงานให้กับวงการแสดงอย่างมากมาย เป็นบุคคลที่มีบุคลิกลักษณะที่น่าชื่นชม เป็นตัวของตัวเอง เป็นผู้ที่สร้างความประทับใจให้กับผู้ติดตามผลงานได้อย่างน่าชื่นชม